OUR BLOG

ข่าวสารและบทความน่ารู้

ประวัติอาหารกระป๋อง

อาหารกระป๋องได้ก่อกำเนิดขึ้นในช่วงพุทธศักราช 2338 โดย นิโคลัส แอปเปิท โดยในยุคนั้นจักรพรรดิ ตินโปเลียน ได้นำเสนอรางวัลสำหรับคนที่จะสามารถพัฒนาวิธีการเก็บรักษาอาหารและความปลอดภัยกับอาหารเพื่อนำไปใช้เป็นเสบียงให้กับกองทัพในช่วงเวลาที่ต้องเดินทางไกลเป็นเวลานาน โดย นิโคลัส แอปเปิท ได้คิดค้นบรรจุภัณฑ์ที่สามารถเก็บอาหารได้ โดยการนำอาหารใส่ขวดแก้วพร้อมจุกที่ปิดผนึกสนิทและมีการฆ่าเชื้อด้วยความร้อน ซึ่งต่อมามีการพัฒนาเปลี่ยนจากขวดแก้วเป็นกระป๋องโลหะ และจากนั้น มีชาวอังกฤษชื่อ ดอนกิ้นและฮอลล์ ได้ซื้อลิขสิทธ์ จาก นิโคลัส แอปเปิล ( ตอนนั้น นิโคลัส แอปเปิท ได้รับเกียรติฐานะผู้ประดิษฐ์คิดค้นบรรจุภัณฑ์กระป๋องโลหะที่สามารถฆ่าเชื้อได้เป็นคนแรก ) ต่อจากนั้นมีชาวอังกฤษ ชื่อ ปีเตอร์ ดูรัล ได้นำเสนออาหารที่ถูกปิดผนึกในกระป๋อง และได้นำมาใช้เชิงพาณิชย์ครั้งแรก ในปี พุทธศักราช 2455 ที่ประเทศ สหรัฐอเมริกา โดย โทมัส เคนเซต ได้ยึดวิธีการนี้ใช้มาเป็นเวลานาน กระทั่งต่อมา มีนักพัฒนาหลายๆท่าน ได้ออกแบบบรรจุภัณฑ์ให้ใช้ง่ายและสะดวกขึ้น จนเป็นรูปแบบกระป๋องที่เราใช้กันในปัจจุบัน

ประโยชน์ต่างๆจากอาหารกระป๋อง

ประโยชน์ต่างๆจากอาหารกระป๋อง

ข้อดีของอาหารกระป๋อง

1.อาหารกระป๋องหาได้ง่ายตามร้านสะดวกซื้อทั่วไป

2.กระป๋องสำหรับบรรจุอาหารทนทานต่อการกัดกร่อน ไม่บุบหรือเสียหายง่าย ทำให้อาหารกระป๋องเก็บไว้ได้นาน

3.ขั้นตอนการผลิตอาหารกระป๋อง ไม่ได้มีค่าใช้จ่ายสูงเหมือนกรรมวิธีการผลิตอื่นๆ  อาหารกระป๋องจึงมีราคาที่มาตรฐาน

4.ง่ายต่อการเก็บรักษา เนื่องจากอาหารถูกปิดผนึกไว้ในกระป๋องยากต่อการเน่าเสียและไม่จำเป็นต้องแช่เย็น

5.กระป๋องทำจากอะลูมิเนียม สามารถนำกลับมารีไซเคิลใหม่ได้ โดยที่คุณภาพไม่ลดลง เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

ขั้นตอนการถนอมอาหารกระป๋อง

ขั้นตอนการถนอมอาหารกระป๋อง

ปัจจุบันอาหารกระป๋อง เป็นอีกทางเลือกที่ทำให้อุ่นใจในยามหิว ซึ่งต้องบอกเลยว่า อาหารกระป๋องนอกจากจะเก็บได้ยาวนาน และยังไม่ต้องแช่ตู้เย็นแล้ว ยังคงคุณค่าทางโภชนาการ สามารถเปิดฝาแล้วรับประทานได้เลย ง่าย สะดวก รวดเร็ว หรือจะนำไปปรุงอาหารชนิดอื่นๆ ให้มื้ออาหารธรรมดาเป็นมื้ออาหารที่พิเศษยิ่งขึ้นได้

 

อาหารกระป๋อง เป็นการถนอมอาหารชนิดหนึ่ง ที่ผ่านเทคโนโลยีการผลิตที่ยับยั้งการขยายพันธุ์ของเชื้อโรค และนำไปบรรจุในกระป๋องโลหะที่เคลือบสารป้องกันการเกิดสนิม ทำให้สามารถเก็บอาหารได้ยาวนานและนำมาบริโภคได้ตลอด

 

คุณค่าของอาหารกระป๋อง

หลายๆคนคงเข้าใจว่าคุณค่าทางโภชนาการในอาหารกระป๋องจะถูกทำลายไปตั้งแต่ขั้นตอนการผลิตหรือเลือนหายไปตามเวลา ซึ่งในงานวิจัยพบว่า อาหารที่บรรจุในกระป๋องยังคงคุณค่าและปริมาณสารอาหารจำพวก แร่ธาตุ คาร์โบไฮเดรต โปรตีน และวิตามินที่ละลายในไขมัน เช่น วิตามินเอ ดี อี และวิตามินเค

 

ขั้นตอนการบรรจุภัณฑ์อาหารกระป๋อง

1.การเตรียมวัตถุดิบ

เริ่มจากคัดเกรด คัดขนาด ของอาหาร แล้วนำไปทำความสะอาดให้เรียบร้อย จากนั้นหั่นอาหารให้เป็นชิ้นพอดีเพื่อบรรจุลงกระป๋อง

 

2.การไล่อากาศ

การไล่อากาศเป็นการพ่นไอน้ำร้อนไปที่หน้าผิวของอาหารด้วยเครื่องไล่อากาศ ซึ่งเป็นการยับยั้งไม่ให้เกิดจุลินทรีย์ในอาหาร และป้องกันการเกิดการเปลี่ยนแปลงของเรื่องกลิ่น สี และรสชาติ หรทอการเน่าเสียได้

 

3.การปิดผนึกสนิท

การปิดผนึกสนิท ใช้ Hermectically sealed containerเพื่อไม่ให้สิ่งปนเปื้อนเข้าไปในบรรจุภัณฑ์ หลังจากการฆ่าเชื้อแล้ว ปิดฝากระป๋องโดยใช้เครื่องปิดฝากระป๋อง

 

4.การฆ่าเชื้อด้วยความร้อน

การใช้ความร้อนเพื่อทำลายจุลินทรีย์ตามอุณหภูมิและระยะเวลาที่กำหนด ซึ่งจะฆ่าเชื้อด้วยความร้อนที่อุณหภูมิสูงกว่า 100 องศาเซลเซียส เพื่อให้อาหารปลอดภัยและเก็บรักษาได้ในระยะเวลาที่กำหนด

 

5.การทำให้เย็น

หลังจากฆ่าเชื้อเสร็จแล้วต้องทำให้เย็นทันที เพื่อป้องกันไม่ให้แบคทีเรียเกิดการปรับตัวทนต่อความร้อนได้ เป็นการรักษาคุณค่าอาหารในกระป๋อง

 

วิธีเก็บรักษาอาหารกระป๋อง

1.ควรเก็บไว้ในที่แห้ง ไม่อับชื้น และหลีกเลี่ยงแสงแดด ป้องกันการเสียของอาหารและกระป๋องเป็นสนิม

2.เช็ดทำความสะอาดบริเวณฝาด้านบนทุกครั้ง ก่อนที่จะทำการเปิดฝา

3.หากรับประทานอาหารไม่หมด ควรเปลี่ยนไปใส่ภาชนะที่มีฝาปิด และแช่เย็นไว้ เพื่อป้องกันการปนเปื้อนเชื้อโรค

4.วางอาหารกระป๋อง ให้สูงจากพื้นอย่างน้อย 30 เซนติเมตร เพื่อป้องกันสัตว์นำโรค และสิ่งสกปรกปนเปื้อน

เมนูที่ทำจากทูน่า

ทูน่ากระป๋อง ส่วนผสมหลักที่ลงตัว สำหรับเมนูคนรักสุขภาพ

เนื้อทูน่าของเราเหมาะสำหรับไว้ประกอบอาหารได้หลายอย่าง โดยเนื้อทูน่าของเรา มีให้เลือกถึง 2 แบบ

แบบที่ 1 : ทูน่าเสต็ก หรือ ทูน่าแบบก้อน

เหมาะกับอาหารที่ใช้ทูน่าเป็นชิ้นใหญ่ ใช้ปรุงอาหาร ทอด แกง ผัด และเมนูอื่นๆที่รังสรรค์ขึ้นมา

แบบที่ 2 : ทูน่าแซนด์วิช หรือ ทูน่าแบบชิ้นเล็ก

เหมาะกับอาหารที่ใช้เนื้อทูน่าชิ้นเล็กๆ ใช้ปรุงอาหาร เช่น แชนด์วิช สลัด น้ำพริก และเมนูอื่นๆที่รังสรรค์ขึ้นมา

 

ทูน่ากระป๋องของเราจะมีการแยกประเภทตามชนิดของน้ำที่ใส่ผสมมากับทูน่า เพื่อให้เหมาะกับอาหารที่หลากหลาย

ทูน่าในน้ำแร่ : เนื้อและรสชาติของทูน่าในน้ำแร่  มีรสชาติจืด มีปริมาณไขมัน และเกลือต่ำ ใช้ปรุงอาหารประเภท ยำ ต้ม เหมาะกับเมนูที่ต้องการรักษาสุขภาพ  ทูน่าชนิดนี้ไม่เหมาะไปทอด เพราะมีส่วนผสมของน้ำแร่จะทำให้น้ำมันกระเด็นในขณะทอดได้นั้นเอง

ทูน่าในน้ำเกลือ : ส่วนผสมของน้ำเกลือ ทำให้รสชาติจะออกไปทางเค็ม ซึ่งเหมาะกับอาหารที่ต้องการรสชาติเค็มแต่ไม่ต้องการความมัน เช่น ขนมจีน ลาบ ซุป ยำ น้ำพริก ซึ่งทูน่าในน้ำเกลือไม่เหมาะนำไปทอดเช่นกัน

ทูน่าในน้ำมัน : ทูน่าในน้ำมัน จะมีส่วนผสมของน้ำมันดอกทานตะวัน ถั่วเหลือง ซึ่งทำให้เนื้อปลาทูน่ามีความนุ่มละมุน และรสชาติออกเค็มๆมันๆ เหมาะกับปรุงอาหารประเภท แซนด์วิช แกง ผัด สลัด เป็นต้น

 

เมนูที่รังสรรค์จากทูน่ากระป๋องธรรมดา สู่ความอร่อยที่ต้องบอกต่อ

1.น้ำพริกหนุ่มทูน่า

ใครชอบน้ำพริกหนุ่มอยู่แล้ว บอกเลยเมนูนี้ห้ามพลาด น้ำพริกหนุ่มทูน่า ทำจากทูน่าในน้ำเกลือ นอกจากความแปลกใหม่แล้ว บอกเลยรสชาติไม่แพ้เมนูน้ำพริกอ่องจากส่วนผสมอื่นๆแน่นอน ได้เนื้อทูน่าเน้นๆ กิบกับข้าวร้อนๆ อร่อยมาก

2.คั่วกลิ้งทูน่า

สายคั่วกลิ้งต้องถูกใจสิ่งนี้ แค่นำพริกแกงคั่วกลิ้งผัดกับทูน่าให้เข้ากันดี ปรุงรสชาติตามใจชอบ ลองทำกินสักมื้อบอกเลยจะติดใจ

3.ยำทูน่าฟู

ใครไม่ชอบ ก็ต้องชอบ กับเมนูยำทูน่าฟู นำทูน่ากระป๋องคลุกกับเกล็ดขนมปังแล้วนำไปทอดจนเนื้อเหลืองกรอบน่ารับประทาน กินคู่พร้อมกับน้ำยำรสเด็ด บอกเลยฟิน

5.สปาเกตตี้ลาบทูน่า

แนะนำอาหารไทยมาเยอะแล้ว ลองอาหารสไตล์ยุโรปบ้าง เมนูนี้ถูกปากแน่นอน แถมวิธีทำก็ง่าย นำทูน่าคลุกเคล้ากับเครื่องลาบ จากนั้นก็นำมาคลุกกับเส้นสปาเกตตี้ แค่นี้ก็เสร็จ ทำให้เด็กๆที่บ้านกินบอกเลยไม่ผิดหวัง

ประเภทบทความ

ค้นหา

บทความล่าสุด

วิธีเลือกซื้ออาหารกระป๋อง

ประวัติอาหารกระป๋อง

ประโยชน์ต่างๆจากอาหารกระป๋อง

ข้อมูลติดต่อ